เมนู

ปฏิบัติสิกขาบทตามที่ทรงบัญญัติไว้ ย่อมเลื่อมใสยิ่ง ๆ ขึ้นไปว่า โอ ! พระ-
ผู้เป็นเจ้าเหล่าใด คอยเฝ้ารักษาวินัยสังวร ซึ่งมีอาหารครั้งเดียวตลอดชีวิต
เป็นความประพฤติประเสริฐ, พระผู้เป็นเจ้าเหล่านั้น เป็นผู้มีปกติทำกรรมที่
ทำได้ยาก. ด้วยเหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ปสนฺนานํ วา ภิยฺโย-
ภาวาย.

[พระสัทธรรม 3 อย่าง]


ข้อว่า สทฺธมฺมฏฺฐิติยา มีความว่า สัทธรรมมี 3 อย่าง คือปริยัติ-
สัทธรรม 1 ปฏิปัตติสัทธรรม 1 อธิคมสัทธรรม 1. บรรดาสัทธรรม 3
อย่างนั้น ที่ชื่อว่าปริยัติสัทธรรม ได้แก่พุทธพจน์แม้ทั้งสิ้นรวมด้วยพระไตร-
ปิฎก. ที่ชื่อว่าปฏิปัตติสัทธรรม ได้แก่ธรรมนี้คือธุดงคคุณ 13 ขันธกวัตร 14
มหาวัตร 82 ศีล สมาธิ และวิปัสสนา. ที่ชื่อว่าอธิคมสัทธรรม ได้แก่ธรรมนี้
คือ อริยมรรค 4 สามัญผล 4 นิพพาน 1. เมื่อมีสิกขาบทบัญญัติ ภิกษุ
ทั้งหลาย ย่อมเรียนสิกขาบทและวิภังค์แห่งสิกขาบทนั้น และพุทธวจนะอื่น
เพื่อส่องความแห่งสิกขาบทและวิภังค์นั้น และเมื่อปฏิบัติสิกขาตามที่ทรง
บัญญัติไว้ ย่อมบรรลุโลกุตรธรรม ที่ตนจะพึงบำเพ็ญข้อปฏิบัติแล้วบรรลุได้
ด้วยความปฏิบัติ, เพราะเหตุนั้น สัทธรรมแม้ทั้งสิ้นนั้น จึงชื่อว่า เป็นสภาพ
มีความตั้งอยู่ ยั่งยืน ด้วยสิกขาบทบัญญัติ. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงตรัสว่า สทฺธมฺมฏฺฐิติยา.
ข้อว่า วินยนุคฺคหาย มีความว่า จริงอยู่ เมื่อมีสิกขาบทบัญญัติ
วินัยทั้ง 4 อย่าง คือ สังวรวินัย 1 ปหานวินัย 1 สมถวินัย 1 บัญญัติ
วินัย 1 ย่อมเป็นอันทรงอนุเคราะห์ คืออุปถัมภ์สนับสนุนไว้เป็นอันดี. ด้วย
เหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า วินยานุคฺคหาย ก็บทเหล่านั้นทั้ง